ฟ้าทลายโจร
ฟ้าทลายโจร หรือชื่อพื้นเมืองอื่นๆ เช่น ฟ้าทลาย น้ำลายพังพอน หญ้ากันงู ฟ้าลาง เมฆทลาย ฟ้าสะท้าน สามสิบดี ดีปังฮี (จีน) ชื่อวิทยาศาสตร์ Andrographis paniculata (Burm) Nees วงศ์ Acanthaceae ได้รับคัดเลือกจากคณะทำงานคัดเลือกรายการยาจากสมุนไพรบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ เมื่อพ.ศ.2542 ให้บรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยการวิจัยด้านเภสัชวิทยาพบประโยชน์ 1.ใช้รักษาอาการเจ็บคอ 2.ใช้แก้อาการท้องเสีย และโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน 3.บรรเทาอาการหวัดและเสริมภูมิต้านทาน ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นหายจากหวัด ภูมิแพ้ที่มักเป็นบ่อยๆ ให้หายเร็วขึ้น 4.ใช้เป็นยาภายนอกเป็นยาพอกฝี รักษาแผลที่เป็นหนอง
ฟ้าทลายโจรเป็นไม้ล้มลุก สูง 30-60 เซนติ เมตร ทั้งต้นมีรสขม ลำ ต้นเป็นสี่เหลี่ยม แตกกิ่งออกเป็นพุ่มเล็ก ใบเดี่ยวรูปหอกเรียวแหลม ผิวเป็นมันเรียบสีเขียว ดอกออกเป็นช่อใหญ่ที่ปลายกิ่งและซอกใบ ดอกขนาดเล็ก กลีบสีขาวตรงกลางมีแถบสีม่วงพาดจากโคนกลีบดอกมายังปลายกลีบ มี 5 กลีบ ผลรูปกระสวยยาวเรียว สีเขียวอมน้ำตาล เมื่อผลแก่จะแตกดีดเมล็ดออกมา
ฟ้าทลายโจรทำเป็นยาได้หลายรูปแบบ ตำรับยามี 1.ยาชง เอาใบสดหรือแห้งก็ได้ประมาณ 5-7 ใบ (แต่ใบสดจะดีกว่า) เติมน้ำเดือดลงไปจนเกือบเต็มแก้ว ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือพอยาอุ่น แล้วรินเอามาดื่ม ขนาดรับประทาน ครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน 2.ยาเม็ด (ลูกกลอน) เด็ดใบสดมาล้างให้สะอาด ผึ่งในที่ร่ม ห้ามตากแดด ควรผึ่งในที่มีลมโกรกใบจะได้แห้งเร็ว บดเป็นผงให้ละเอียด ปั้นกับน้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม เป็นเม็ดขนาดเท่าเม็ดถั่วเหลือง (หนัก 250 มิลลิกรัม) แล้วผึ่งลมให้แห้ง ถ้าปั้นรับประทานขณะที่ยังเปียกอยู่จะขมมาก ขนาดรับประทานครั้งละ 4-10 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน
3.แคปซูล ทำผงยาเหมือนยาลูกกลอน แต่แทนที่จะปั้นเป็นเม็ด ก็ใส่ในแคปซูลเพื่อกลบรสขมของยา แคปซูลที่ใช้ขนาดเบอร์ 2 (ผงยา 250 มิลลิกรัม) ขนาดรับประทานครั้งละ 3-5 แคปซูล วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน 4.ยาทิงเจอร์หรือยาดองเหล้า เอาผงแห้งใส่ขวด แช่เหล้าที่แรงๆ เช่น เหล้าโรง 40 ดีกรี ถ้ามีแอลกอฮอล์ที่รับประทานได้ (Ethyl alcohol) จะดีกว่าเหล้า แช่พอให้ท่วมยาขึ้นมาเล็กน้อย ปิดฝาให้แน่น เขย่าขวดวันละ 1 ครั้ง ครบ 7 วัน จึงกรองเอาแต่น้ำ เก็บไว้ในขวดสะอาดปิดสนิท รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหาร คำเตือน รสขมมาก
5.ยาผงใช้สูดดม เอายาผงมาใส่ขวดหรือกล่องยา ปิดฝาเขย่าแล้วเปิดฝาออก ผงยาจะเป็นควันลอยออกมา สูดดมควันนั้นเข้าไป ผงยาจะติดที่คอทำให้ยาไปออกฤทธิ์ที่คอโดยตรง ช่วยลดเสมหะและแก้เจ็บคอได้ดี ที่ดีกว่าคือวิธีเป่าคอ กวาดคอ หรือรับประทานยาชง ตรงที่คอจะรู้สึกขมน้อยมาก ใช้สะดวกและง่ายมาก ประโยชน์ที่น่าจะได้รับเพิ่มก็คือผงยาที่เข้าไปทางจมูกอาจจะช่วยลดน้ำมูกและช่วยฆ่าเชื้อที่จมูกด้วย สูดดมบ่อยๆ วันละหลายๆ ครั้ง ถ้ารู้สึกคลื่นไส้ให้หยุดยาไปสักพักจนความรู้สึกนั้นหายไปจึงค่อยสูดใหม่
สารในฟ้าทลายโจรละลายในแอลกอฮอล์ได้ดีมาก ละลายในน้ำได้น้อย ยาทิงเจอร์หรือยาดองเหล้าฟ้าทลายโจรจึงมีฤทธิ์แรงที่สุด ยาชงมีฤทธิ์แรงรองลงมาคือ ยาเม็ดมีฤทธิ์อ่อนที่สุด
ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรฟ้าทลายโจร คือ ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีความดันต่ำ และมีอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย และกินยาฟ้าทลายโจรแล้วมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย เวียนหัว หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ควรหยุดยาทันที ไม่ควรกินติดต่อกันนานๆ เนื่องจากฟ้าทลายโจรจะทำลายจุลินทรีย์ที่อยู่ในกระเพาะอาหารมากเกินไป
ขอบคุณข้อมูล http://www.khaosod.co.th
![]() |
ฟ้าทลายโจรเป็นไม้ล้มลุก สูง 30-60 เซนติ เมตร ทั้งต้นมีรสขม ลำ ต้นเป็นสี่เหลี่ยม แตกกิ่งออกเป็นพุ่มเล็ก ใบเดี่ยวรูปหอกเรียวแหลม ผิวเป็นมันเรียบสีเขียว ดอกออกเป็นช่อใหญ่ที่ปลายกิ่งและซอกใบ ดอกขนาดเล็ก กลีบสีขาวตรงกลางมีแถบสีม่วงพาดจากโคนกลีบดอกมายังปลายกลีบ มี 5 กลีบ ผลรูปกระสวยยาวเรียว สีเขียวอมน้ำตาล เมื่อผลแก่จะแตกดีดเมล็ดออกมา
ฟ้าทลายโจรทำเป็นยาได้หลายรูปแบบ ตำรับยามี 1.ยาชง เอาใบสดหรือแห้งก็ได้ประมาณ 5-7 ใบ (แต่ใบสดจะดีกว่า) เติมน้ำเดือดลงไปจนเกือบเต็มแก้ว ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือพอยาอุ่น แล้วรินเอามาดื่ม ขนาดรับประทาน ครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน 2.ยาเม็ด (ลูกกลอน) เด็ดใบสดมาล้างให้สะอาด ผึ่งในที่ร่ม ห้ามตากแดด ควรผึ่งในที่มีลมโกรกใบจะได้แห้งเร็ว บดเป็นผงให้ละเอียด ปั้นกับน้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม เป็นเม็ดขนาดเท่าเม็ดถั่วเหลือง (หนัก 250 มิลลิกรัม) แล้วผึ่งลมให้แห้ง ถ้าปั้นรับประทานขณะที่ยังเปียกอยู่จะขมมาก ขนาดรับประทานครั้งละ 4-10 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน
3.แคปซูล ทำผงยาเหมือนยาลูกกลอน แต่แทนที่จะปั้นเป็นเม็ด ก็ใส่ในแคปซูลเพื่อกลบรสขมของยา แคปซูลที่ใช้ขนาดเบอร์ 2 (ผงยา 250 มิลลิกรัม) ขนาดรับประทานครั้งละ 3-5 แคปซูล วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน 4.ยาทิงเจอร์หรือยาดองเหล้า เอาผงแห้งใส่ขวด แช่เหล้าที่แรงๆ เช่น เหล้าโรง 40 ดีกรี ถ้ามีแอลกอฮอล์ที่รับประทานได้ (Ethyl alcohol) จะดีกว่าเหล้า แช่พอให้ท่วมยาขึ้นมาเล็กน้อย ปิดฝาให้แน่น เขย่าขวดวันละ 1 ครั้ง ครบ 7 วัน จึงกรองเอาแต่น้ำ เก็บไว้ในขวดสะอาดปิดสนิท รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหาร คำเตือน รสขมมาก
5.ยาผงใช้สูดดม เอายาผงมาใส่ขวดหรือกล่องยา ปิดฝาเขย่าแล้วเปิดฝาออก ผงยาจะเป็นควันลอยออกมา สูดดมควันนั้นเข้าไป ผงยาจะติดที่คอทำให้ยาไปออกฤทธิ์ที่คอโดยตรง ช่วยลดเสมหะและแก้เจ็บคอได้ดี ที่ดีกว่าคือวิธีเป่าคอ กวาดคอ หรือรับประทานยาชง ตรงที่คอจะรู้สึกขมน้อยมาก ใช้สะดวกและง่ายมาก ประโยชน์ที่น่าจะได้รับเพิ่มก็คือผงยาที่เข้าไปทางจมูกอาจจะช่วยลดน้ำมูกและช่วยฆ่าเชื้อที่จมูกด้วย สูดดมบ่อยๆ วันละหลายๆ ครั้ง ถ้ารู้สึกคลื่นไส้ให้หยุดยาไปสักพักจนความรู้สึกนั้นหายไปจึงค่อยสูดใหม่
สารในฟ้าทลายโจรละลายในแอลกอฮอล์ได้ดีมาก ละลายในน้ำได้น้อย ยาทิงเจอร์หรือยาดองเหล้าฟ้าทลายโจรจึงมีฤทธิ์แรงที่สุด ยาชงมีฤทธิ์แรงรองลงมาคือ ยาเม็ดมีฤทธิ์อ่อนที่สุด
ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรฟ้าทลายโจร คือ ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีความดันต่ำ และมีอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย และกินยาฟ้าทลายโจรแล้วมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย เวียนหัว หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ควรหยุดยาทันที ไม่ควรกินติดต่อกันนานๆ เนื่องจากฟ้าทลายโจรจะทำลายจุลินทรีย์ที่อยู่ในกระเพาะอาหารมากเกินไป
ขอบคุณข้อมูล http://www.khaosod.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น