วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เดินเท้าเปล่าบำบัดโรค

เดินเท้าเปล่าบำบัดโรค
บางช่วงเวลาเราคงลืมไปว่าเมื่อครั้งแรกเริ่มที่เราเกิดมานั้นเรามากันตัวเปล่าไม่มีเสื่อผ้าอาภรณ์ใดๆมาห่อพันกายแต่เมื่อโลกเราเรียนรู้ชีวิตที่จะต้องมีอารยะธรรมจึงเริ่มหาแพรพรรณมาปิดบังกายไว้ครอบคลุมไปถึง“เท้า” ที่แต่เดิมใช้เป็นยานพาหนะนำทางไปได้ทุกทีเรียกได้ว่าย่ำไหนก็ไปกันจากนั้นเราก็เริ่มใช้ “รองเท้า”เป็นเครื่องคั่นระหว่างเท้าเรากับพื้นดินที่เราเริ่มมองว่าเศษดินจะนำพามาซึ่ง “เชื้อโรค” ใส่กันเสียจนเพลินไม่รู้ว่าเป็นเพราะแฟชั่นที่มีมาหลากหลายหรือเปล่าจนลืมไปพาเท้าไปพักผ่อนบ่อยครั้งที่พวกมันแอบบ่นน้อยใจเว้าวอนให้มองดูเท้าบ้าง
เคยสังเกตหรือไม่ว่าคนเฒ่าคนแก่ที่เดินเท้าเปล่ามาเนิ่นนานนั้นเหตุจึงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยหรือพยาธิไชเท้าอย่างที่เรากลัวเป็นเพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันมีความพอดีอีกอย่างในสมัยโบราณก่อนขึ้นบ้านทุกหน้าบ้านก็จะมีที่ล้างเท้าไว้จึงช่วยลดล้างสิ่งสกปรกออกไปได้บ้าง
การพาตัวเองกลับสู่ธรรมชาติบ้างบางครั้งก็ง่ายเพียงแค่ถอดรองเท้าแล้วปล่อยให้เท้าเริงร่าไปกับพื้นดินพื้นหญ้าบ้าง
การเดินเท้าเปล่าย้ำไปบนดินในมุมมองของบางคนอาจดูว่ามันสกปรกแต่ในอีกทางมันคือการ“บำบัด” การเดินเท้าเปล่าบนดินพื้นหญ้าหรือแม้แต่หาดทรายสามารถช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดีขึ้นเพราะเป็นปัจจัยที่จะไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความกระปรี้กระเปร่าและสดชื่น
ข้อมูลอ้างอิงจากมูลนิธิสุขภาพไทย กล่าวไว้ว่าตามหลักการแพทย์แผนโบราณของจีน“เท้า” เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่รับเอาพลังจากมหาปฐพีนี้แบบเต็มๆมากกว่าอวัยวะอื่นการที่เราจะเปลือยเท้าสัมผัสกับพื้นดินซะบ้างย่อมจะทำให้ไฟธาตุในร่างกายเกิดความสมดุลช่วยเสริมสร้างพลังให้แก่ร่างกายอย่างดียิ่ง
หากสัมผัสเท้าของเราดูจะเห็นว่าที่เท้าจะมีจุดต่างๆมากมายที่มีความสัมพันธ์กับอวัยวะภายในของร่างกายฉะนั้นการเดินเท้าเปล่าจะช่วยกระตุ้นจุดต่างๆเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่โดยเฉพาะจุดที่เรียกว่า “หย่งเฉวียน” ถ้าหากได้มีการกระตุ้นที่เหมาะสมแล้วจะส่งผลให้สมองที่มีส่วนสัมพันธ์กับไตไขสันหลังและระบบประสาทจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นช่วยทำให้การขับฮอร์โมนชนิดต่างๆในร่างกายเป็นไปอย่างสมบูรณ์ร่างกายจึงกระปรี้กระเปร่าและสดชื่นขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
แม้ว่าในแต่ละวันเราจะมีเวลาน้อยในการพักผ่อนและมีโอกาสได้สัมผัสกับธรรมชาติน้อยกว่าคนในอดีตก็สมควรยิ่งนักที่จะหาโอกาสลองทำดูในเวลาเช้าหรือเย็นก็ได้ก่อนไปทำงานหรือจะเลือกในช่วงเวลาที่ปลูกต้นไม้รดน้ำต้นไม้หรือเดินเล่นตามสวนหรือบริเวณที่เป็นพื้นดินพื้นหญ้าวันละเล็กวันละน้อยก็เป็นการดีเพราะความรู้สึกปลดปล่อยจากความวิตกกังวลในเวลาสั้นๆจะช่วยต่อไฟในตัวคุณได้ดีที่เดียว
เห็นอย่างนี้แล้วเลยไม่แปลกใจว่าทำไมคนระดับรากหญ้าหรือบรรดา“นักสู้ตีนเปล่า”ทั้งหลายจึงมีเรี่ยวแรงต่อสู้นานาอุปสรรคได้อย่างไม่ท้อถอย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
http://board.palungjit.com/f9/เดินเท้าเปล่าบำบัดโรค-294207.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น