วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เที่ยวเมืองไทย เหมือนไปเมืองนอก (รวม 10 ที่เที่ยวเมืองไทย สไตล์เมืองนอก 10 ประเทศ)

เที่ยวเมืองไทย เหมือนไปเมืองนอก (รวม 10 ที่เที่ยวเมืองไทย สไตล์เมืองนอก 10 ประเทศ)

10. อินเดียในเมืองไทย 

ใครที่หลงใหลในเสน่ห์ของ ทัชมาฮาล อนุสาวรีย์แห่งความรักจากประเทศอินเดีย  ลองล่องใต้ลงไปยังจังหวัดสงขลา คุณก็จะได้เจอวิหาร ทัชมาฮาล อันสวยงาม โดยถอดแบบมาจากต้นฉบับเป๊ะๆ! แต่ที่นี่ไม่ใช่เป็นอนุสรณ์แห่งความรัก หากเป็นมัสยิดกลาง ประจำจังหวัดสงขลา ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ชาวไทยมุสลิม ได้ใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ และถูกยกให้เป็นมัสยิดที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย!!
9.มัลดีฟส์ในเมืองไทย 

เมื่อพูดถึง “ทะเล” ในฝันที่ใครหลายคนอยากไปสัมผัส แน่นอนว่า “มัลดีฟส์” ต้องนอนมาเป็นเบอร์ต้นๆ ซึ่งหากกำลังทรัพย์ของคุณไม่อำนวย แต่อยากยลความสวยระดับ Hi-End ก็ด้อนท์วอรี่! เพราะบอกแล้วว่าพี่ไทยเราก็มี นั่นคือ “เกาะพยาม” จังหวัดระนอง ซึ่งนักท่องเที่ยวยินดีมอบสมญาให้เป็น “มัลดีฟส์เมืองไทย” อย่างไม่กระดากฟิลลิ่ง ด้วยน้ำทะเลสีเขียวสะอาดใสเป๊ะเว่อร์ เหมือนคอมพิวเตอร์กราฟิก! แถมยังถูกประดับด้วยรีสอร์ทที่ปักหมุดอยู่โลเคชั่นกลางทะเลเป็นหลังๆ ราวกับจำลองภาพจาก “เกาะมัลดีฟส์” มาทุกกระเบียดนิ้ว จึงไม่น่าแปลกใจถ้าคุณจะกด Like ให้ที่เที่ยวแห่งนี้!!


8. ญี่ปุ่นในเมืองไทย

สำหรับผู้ที่ปลาบปลื้ม Japanese เข้าเส้น คงพยักใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มให้ที่เที่ยวแห่งนี้ได้ไม่ยาก กับ Hako Town ฟู้ดคอร์ทย่านเลียบทางด่วน รามอินทรา ที่ยกเอาบรรยากาศเงียบสงบ ของชนบทในประเทศญี่ปุ่นผสมกับทิวทัศน์ร่วมสมัย มาให้คนไทยได้สัมผัสกันอย่างถึงแก่น ใครที่กำลังหาโลเคชั่นเก๋ๆ ถ่ายภาพ หรืออยากดื่มด่ำความเป็นนิปปอนขนานแท้ อย่าลืมแวะมาโดน! แถมที่ Hako Town ยังรวบรวมทั้งอาหารรสเลิศ และร้านต้นตำรับแห่งแรกในประเทศไทย เรียกว่างานนี้ได้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มตาในคราวเดียวกัน

7. สวิตเซอร์แลนด์ในเมืองไทย

สารภาพว่า “Swiss Sheep Farm” ฟาร์มสุดน่ารักแห่งใหม่ในเมืองชะอำ แล่นเข้ามาในหัวด้วยความเร็ว 4 คูณร้อย หากจะนึกถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองไทย ที่สามารถตอบโจทย์ได้ครบเครื่องทั้งเรื่องอากาศแจ่มๆ  จากทำเลฝังตัวท่ามกลางธรรมชาติเขียวชอุ่ม โอบอุ้มด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน สะท้อนอารมณ์โรแมนติกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีฝูง“น้องแกะ” แสนน่ารัก หรือจะ “ขี่ม้าชมวิว” ก็ชิลล์ไปอีกแบบ และไฮไลท์สำคัญต้องไม่พลาดมา “คล้องกุญแจแห่งรัก”ที่มีตำนานเล่าว่าหากคู่ไหนได้มาคล้องร่วมกัน ก็จะสามารถครองรักได้นิรันดร์เลยทีเดียว!!

6. ฮ่องกงในเมืองไทย

ผู้ที่เคยไปย่ำแดนฮ่องกง หนึ่งในไฮไลท์สำคัญประจำทริป แน่ล่ะว่าคุณต้องไม่พลาดไปดื่มด่ำสีสันยามค่ำคืน กับงานSymphony of Lights ที่กว่า 44 อาคารริมอ่าว Victoria ต่างพร้อมใจกันเปิดไฟปล่อยแสงเลเซอร์เฟี้ยวฟ้าวสุดงดงาม ซึ่งเมืองไทยเราก็มีสถานที่ที่ให้ Feel แบบนี้นะขอบอก! ก็ Asiatique The Riverfront ไงล่ะครับ แม้จะไม่จัดจ้านเท่าเจ้าของต้นตำรับ แต่ก็ได้อารมณ์คล้ายคลึงกัน แค่คุณทอดน่องไปหยุดตรงริมแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน ของที่เที่ยวไลฟ์สไตล์แห่งนี้ แล้วทอดสายตาชมวิวก็จะได้สัมผัสแสงสีสวยๆ งดงามมิใช่หยอก แถมของบ้านเราก็ยังมีรูปปั้นริมน้ำ เหมือนที่ฮ่องกงเด๊ะเลย!!

5. กัมพูชาในเมืองไทย



อันนี้อาจไม่ได้จงใจสร้างให้เหมือน แต่หลายคนที่เคยไปสัมผัสมาทั้งสองแห่ง ต่างบอกว่ามีกลิ่นอายและให้ความรู้สึก“คล้ายกันมาก” ระหว่าง “นครวัด” ประเทศกัมพูชา มรดกทางวัฒนธรรมครั้งโบราณกาลหลายร้อยปี ที่ติดหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก กับ “ปราสาทสัจธรรม”  พัทยา สถาปัตกรรมงานไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน!! ซึ่งทั้งสองแห่งได้สะท้อนทั้งเรื่องราวทางศาสนา รวมทั้งรายละเอียดด้านศิลปกรรม โดยเฉพาะงานปั้นแกะสลักเทวรูปต่างๆ อันเป็น Symbol เด่นที่นักท่องเที่ยวต่างจดจำกันได้เป็นอย่างดี

4. เม็กซิโกในเมืองไทย

ครั้งหนึ่ง หากอยากสัมผัสความเป็นคาวบอยสไตล์เม็กซิกันให้ถึงแก่น ไม่ต้องบินไปไกลถึงทวีปอเมริกา แค่แล่นมาที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชีสมา แล้วตรงดิ่งไปที่ Pather Creek Resort ก็ได้อรรถรสแล้วล่ะครับ เพราะที่นี่จำลองบรรยากาศของเมืองสไตล์ตะวันตก ในยุค Indian-Cowboy มาไว้อย่างเต็มรูปแบบ แถมยังมี Service เจ๋งๆ เช่น บริการให้เช่าชุดคาวบอยแอ็คชั่นถ่ายรูปเท่ห์ๆ, รับจัดงาน Event งานปาร์ตี้ทั้งหลาย, หรือใครติดใจอยากนอนค้างก็มีห้องพักให้เลือกหลายแบบ พร้อมโบนัสได้สูดอากาศดีๆ จากธรรมชาติอันรื่นรมย์ที่อยู่รายรอบอีกด้วย

3. จีนในเมืองไทย




ช็อตความรู้สึกแรกเมื่อก้าวเข้าสู่วิหาร “ศาลเจ้าหน่าจาไท้จื้อ” จังหวัดชลบุรี แห่งนี้ ราวกับหลุดเข้าไปในเมืองจีนยังไงหยั่งงั้น เพราะความประทับใจถูกสะกดไว้ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ไชน่าสุดวิจิตรตระการตา เช่น มังกรบุคลิกน่าเกรงขามที่พันอยู่รอบเสาทุกต้น ซึ่งความโดดเด่นของ “ศาลเจ้าหน่าจาไท้จื้อ” คือวิหารขนาดใหญ่ 4 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะเป็นที่ประดิษฐานของทวยเทพต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมไปกราบไหว้เพื่อเสริมความเป็นศิริมงคล ซึ่งหากได้แวะมาที่นี่ไม่เพียงแต่คุณจะได้อิ่มบุญ แต่รับรองว่าจะปรีดากับความสวยของสถานที่กลับไปด้วยอย่างแน่นอน!!

2. อิตาลีในเมืองไทย


“จี๊ดจ๊าดชนะเลิศ” ผมกำลังพูดถึงที่เที่ยวสีสันสดใส หนึ่งใน Landmark แห่งเขาใหญ่ นาม Palio ซึ่งจำลองอาคารบ้านเรือนมาจากหมู่บ้าน ทัสคานี (Tuscany) ประเทศอิตาลี ที่อาจจะดูสลับซับซ้อนนิดหน่อย แต่ก็เดินทะลุถึงกันได้ทั้งหมด โดยใน Palio มีทั้งสวนหย่อมสไตล์อิตาลี บรรยากาศสุดชิลล์, น้ำพุเก๋ๆ ให้แชะภาพคู่, หอชมวิวเขาใหญ่ชื่นใจลูกนัยน์ตา, เพลินลั้ลลากับร้านขายของหลากชนิด  หรืออยากอยู่ทั้งวันทั้งคืนก็เลือกพักใน Boutique Hotel ได้อีกต่างหาก

1. กรีซในเมืองไทย

เมื่อมาเยือน Santorini Park ชะอำ ก็ต้องขอยกนิ้วให้ ว่าครีเอทจนเหมือนบรรยากาศเมือง Santorini ของจริงในประเทศกรีซเสียเหลือเกิน ทั้งสถาปัตยกรรมโทนสี “ฟ้า-ขาว” แอบแจมด้วยสีสดใสเล็กๆ พอเรียกความสดชื่น และที่นี่ยังการันตีว่าคุณจะได้ทั้งความสุข และ “สนุก” ชนิดล้นปรี่ เนื่องจากรวบรวมทั้งสวนสนุกแหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหารชั้นนำไว้ให้เลือกสำราญกันอย่างพร้อมสรรพ
ขอบคุณข้อมูลhttp://www.dek-d.com/board/view/3010255/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น