เรากินมื้อเช้าแบบไหนกันบ้าง.....
ในแต่ละวัน เมื่อเราตื่นขึ้นมา...
สิ่งสำคัญสิ่งแรกที่เราต้องทำเพื่อร่างกาย ก็คือหาอาหารมื้อเช้าใส่ปากท้อง
มื้อเช้าหลากหลายสไตล์ ตามความสามารถ ความเคยชินก็แล้วแต่
ไม่ว่าจะเป็นกาแฟสักถ้วย ข้าวสวยราดแกงสักจาน หรือผลไม้ฯลฯ
หลายๆคนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับอาหารเช้า
แต่จะเน้นไปที่มื้อค่ำ ซึ่งเป็นการทำร้ายร่างกายตัวเอง นับเป็นความผิดอย่างมหันต์
ลองมาแลกปลี่ยนข้อมูลของการกินอาหารเช้ากันดูหน่อยไหม
สำหรับเบื้องต้นขอนำข้อมูลที่ว่าด้วยการกินอาหารเช้าจากหลายๆแหล่ง มาบอกเล่าสู่กันฟังก่อน
*****************************
เคยมีคำพูดเปรียบเทียบไว้ว่า
อาหารมื้อเช้า ให้กินอย่าง ราชา
อาหารมื้อกลางวัน ให้กินอย่าง กรรมกร
อาหารมื้อเย็น ให้กินอย่าง ยาจก
หรือแนวคิดแบบชาวเกาหลี
อาหารมื้อเช้า 40 – 50 %
อาหารมื้อกลางวัน 30 – 40 %
อาหารมื้อเย็น 10 – 20 %
แต่ในปัจจุบัน ด้วยสาเหตุใดก็ตาม คนส่วนใหญ่กลับทำตรงกันข้าม
ลองมาสนใจกับข้อมูลอาหารมื้อเช้า
- เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการรับประทานอาหารมื้อเช้าคือ 7.00 – 9.00 น เพราะเป็นช่วงเวลาที่กระเพาะอาหาร เริ่มทำงาน
- ถ้าไม่มีอาหารลงไปในกระเพาะ จะมีการบีบรัดตัวของกระเพาะจะไปเอาอุจจาระกลับเข้ามาย่อยซ้ำ
- สารที่ย่อยจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้ร่างกายได้รับสารพิษจากอุจจาระ (แทนที่จะเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์)
ฉะนั้น คนที่ท้องผูกบ่อย อุจจาระที่ถ่ายออกมาจะเป็นเม็ดแข็งเพราะถูกย่อยซ้ำและถูกดูดน้ำออกไปซ้ำอีก
ผลเสียของการไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า
- ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างพลังงานและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ
- เลือดไม่สะอาด ทำให้อวัยวะต่างๆไม่แข็งแรง
- สมองไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ทำให้ไอคิวต่ำ เฉื่อย ขาดความว่องไว ความจำไม่ดี ขาดความกระตือรือร้น
- ถ้าไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นเวลานาน กระเพาะจะไม่แข็งแรง การขับถ่ายไม่ดี
ตัวเหลว กล้ามเนื้อเหลว ผิวเหี่ยวและคล้ำ แก่เร็ว ภูมิต้านทานลด ปวดหัว ปวดเข่า ความจำเสื่อม เป็นอัลไซเมอร์
ถ้าไม่สะดวกในการรับประทานอาหารเช้า แค่ โยเกิร์ต 1 ถ้วยกับกล้วยน้ำว้า 1 ลูกก็ยังดี
โยเกิร์ตดีสำหรับกระเพาะและลำไส้ กล้วยน้ำว้าอุดมด้วยโปรตีนและวิตามิน เอ ซี และอี และย่อยง่าย
ควรมีกล้วยน้ำว้าติดบ้านเสมอ
การดื่มกาแฟแทนอาหารเช้าไม่ได้ประโยชน์ และอาจเป็นโทษด้วยจากสารคาเฟอีน
งดอาหารเช้า เป็นสาเหตุอ้วนได้
นักวิจัยจาก Imperial College London ในประเทศอังกฤษ เปิดเผยผลวิจัยล่าสุด เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการรับประทานอาหารเช้า กับการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว โดยระบุว่า
คนที่ไม่รับประทานอาหารเช้า จะมีความเสี่ยงที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะพวกเขามักเลือกที่จะรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงแทน ในมื้อต่อๆ มา
โดยการวิจัยดังกล่าว จัดทำขึ้นโดยการเก็บข้อมูลของผลการสแกนสมองของอาสาสมัครจำนวน 21 คน ที่มีทั้งกลุ่มที่รับประทานอาหารเช้า และกลุ่มที่ไม่รับประทานอาหารเช้า ซึ่งข้อมูลที่ได้ระบุว่า อาสาสมัครคนใดที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า สมองจะสั่งการให้รับประทานอาหารมากขึ้นในมื้อกลางวัน และอาหารประเภทที่มีแคลอรีสูง จะเป็นอาหารที่กลุ่มคนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า มีความต้องการมากเป็นพิเศษ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ นักวิจัยไม่สามารถให้เหตุผลได้ว่า เหตุใดสมองจึงสั่งการเช่นนั้น และสมองมีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกรับประทานอาหารมากน้อยเพียงใด
สำหรับกลุ่มคนที่กำลังลดความอ้วนนั้น นักวิจัยได้แนะนำว่า ไม่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเช้าเพราะจะส่งผลให้มีการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงในมื้อถัดไป และจะยิ่งทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากขึ้น และยิ่งคนๆ นั้นมีความหิวมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรับประทานอาหารมื้อถัดไปมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลมาจากการสั่งการของสมอง ที่จะตอบสนองได้อย่างรวดเร็วกว่าในเวลาที่หิวจัด
นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ อาหารเช้ามีผลโดยตรงที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ และช่วยให้การดำรงชีวิตในแต่ละวันเป็นไปตามปกติ ดังนั้น หากใครที่ต้องการให้ร่างกายทำงานตามปกติ ก็ควรรับประทานอาหารเช้าในทุกๆ วัน
http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=10944.0
http://www.mukdahanboard.com/read.php?tid=556&fpage=15
ในแต่ละวัน เมื่อเราตื่นขึ้นมา...
สิ่งสำคัญสิ่งแรกที่เราต้องทำเพื่อร่างกาย ก็คือหาอาหารมื้อเช้าใส่ปากท้อง
มื้อเช้าหลากหลายสไตล์ ตามความสามารถ ความเคยชินก็แล้วแต่
ไม่ว่าจะเป็นกาแฟสักถ้วย ข้าวสวยราดแกงสักจาน หรือผลไม้ฯลฯ
หลายๆคนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับอาหารเช้า
แต่จะเน้นไปที่มื้อค่ำ ซึ่งเป็นการทำร้ายร่างกายตัวเอง นับเป็นความผิดอย่างมหันต์
ลองมาแลกปลี่ยนข้อมูลของการกินอาหารเช้ากันดูหน่อยไหม
สำหรับเบื้องต้นขอนำข้อมูลที่ว่าด้วยการกินอาหารเช้าจากหลายๆแหล่ง มาบอกเล่าสู่กันฟังก่อน
*****************************
เคยมีคำพูดเปรียบเทียบไว้ว่า
อาหารมื้อเช้า ให้กินอย่าง ราชา
อาหารมื้อกลางวัน ให้กินอย่าง กรรมกร
อาหารมื้อเย็น ให้กินอย่าง ยาจก
หรือแนวคิดแบบชาวเกาหลี
อาหารมื้อเช้า 40 – 50 %
อาหารมื้อกลางวัน 30 – 40 %
อาหารมื้อเย็น 10 – 20 %
แต่ในปัจจุบัน ด้วยสาเหตุใดก็ตาม คนส่วนใหญ่กลับทำตรงกันข้าม
ลองมาสนใจกับข้อมูลอาหารมื้อเช้า
- เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการรับประทานอาหารมื้อเช้าคือ 7.00 – 9.00 น เพราะเป็นช่วงเวลาที่กระเพาะอาหาร เริ่มทำงาน
- ถ้าไม่มีอาหารลงไปในกระเพาะ จะมีการบีบรัดตัวของกระเพาะจะไปเอาอุจจาระกลับเข้ามาย่อยซ้ำ
- สารที่ย่อยจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้ร่างกายได้รับสารพิษจากอุจจาระ (แทนที่จะเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์)
ฉะนั้น คนที่ท้องผูกบ่อย อุจจาระที่ถ่ายออกมาจะเป็นเม็ดแข็งเพราะถูกย่อยซ้ำและถูกดูดน้ำออกไปซ้ำอีก
ผลเสียของการไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า
- ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างพลังงานและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ
- เลือดไม่สะอาด ทำให้อวัยวะต่างๆไม่แข็งแรง
- สมองไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ทำให้ไอคิวต่ำ เฉื่อย ขาดความว่องไว ความจำไม่ดี ขาดความกระตือรือร้น
- ถ้าไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นเวลานาน กระเพาะจะไม่แข็งแรง การขับถ่ายไม่ดี
ตัวเหลว กล้ามเนื้อเหลว ผิวเหี่ยวและคล้ำ แก่เร็ว ภูมิต้านทานลด ปวดหัว ปวดเข่า ความจำเสื่อม เป็นอัลไซเมอร์
ถ้าไม่สะดวกในการรับประทานอาหารเช้า แค่ โยเกิร์ต 1 ถ้วยกับกล้วยน้ำว้า 1 ลูกก็ยังดี
โยเกิร์ตดีสำหรับกระเพาะและลำไส้ กล้วยน้ำว้าอุดมด้วยโปรตีนและวิตามิน เอ ซี และอี และย่อยง่าย
ควรมีกล้วยน้ำว้าติดบ้านเสมอ
การดื่มกาแฟแทนอาหารเช้าไม่ได้ประโยชน์ และอาจเป็นโทษด้วยจากสารคาเฟอีน
งดอาหารเช้า เป็นสาเหตุอ้วนได้
นักวิจัยจาก Imperial College London ในประเทศอังกฤษ เปิดเผยผลวิจัยล่าสุด เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการรับประทานอาหารเช้า กับการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว โดยระบุว่า
คนที่ไม่รับประทานอาหารเช้า จะมีความเสี่ยงที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะพวกเขามักเลือกที่จะรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงแทน ในมื้อต่อๆ มา
โดยการวิจัยดังกล่าว จัดทำขึ้นโดยการเก็บข้อมูลของผลการสแกนสมองของอาสาสมัครจำนวน 21 คน ที่มีทั้งกลุ่มที่รับประทานอาหารเช้า และกลุ่มที่ไม่รับประทานอาหารเช้า ซึ่งข้อมูลที่ได้ระบุว่า อาสาสมัครคนใดที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า สมองจะสั่งการให้รับประทานอาหารมากขึ้นในมื้อกลางวัน และอาหารประเภทที่มีแคลอรีสูง จะเป็นอาหารที่กลุ่มคนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า มีความต้องการมากเป็นพิเศษ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ นักวิจัยไม่สามารถให้เหตุผลได้ว่า เหตุใดสมองจึงสั่งการเช่นนั้น และสมองมีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกรับประทานอาหารมากน้อยเพียงใด
สำหรับกลุ่มคนที่กำลังลดความอ้วนนั้น นักวิจัยได้แนะนำว่า ไม่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเช้าเพราะจะส่งผลให้มีการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงในมื้อถัดไป และจะยิ่งทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากขึ้น และยิ่งคนๆ นั้นมีความหิวมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรับประทานอาหารมื้อถัดไปมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลมาจากการสั่งการของสมอง ที่จะตอบสนองได้อย่างรวดเร็วกว่าในเวลาที่หิวจัด
นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ อาหารเช้ามีผลโดยตรงที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ และช่วยให้การดำรงชีวิตในแต่ละวันเป็นไปตามปกติ ดังนั้น หากใครที่ต้องการให้ร่างกายทำงานตามปกติ ก็ควรรับประทานอาหารเช้าในทุกๆ วัน
http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=10944.0
http://www.mukdahanboard.com/read.php?tid=556&fpage=15
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น